🎯 สรุป: Pure Technical Analysis (TA เพียวๆ)

🎯 สรุป: Pure Technical Analysis (TA เพียวๆ)

Photo by Leo_Visions / Unsplash
ผมจะสรุปให้ในสไตล์มืออาชีพแบบ “Pure Technical Analysis” (TA เพียวๆ)
คือแนวทางที่เทรดเดอร์วิเคราะห์ตลาดโดยอิงจาก “พฤติกรรมของราคา (Price Behavior)” เท่านั้น
ไม่ใช้ข่าว ไม่ใช้ปัจจัยพื้นฐาน ใช้ “ข้อมูลที่เกิดขึ้นบนกราฟ” เป็นหลักทั้งหมด

🔹 1. แนวคิดหลัก (Core Concept)

“ทุกสิ่งที่มีผลต่อราคา — สะท้อนอยู่ในกราฟแล้ว”

Pure TA เชื่อว่า
ราคาคือผลรวมของทุกอารมณ์ ความคาดหวัง และข้อมูลในตลาด
ดังนั้น เราไม่ต้องรู้ข่าว เราแค่ต้อง “อ่านร่องรอยของแรงซื้อ–ขาย” ที่ปรากฏบนกราฟให้ขาด


🔹 2. เป้าหมายของ Technical Analysis

  • หา “แนวโน้มของราคา” (Trend)
  • หา “จุดเข้า–ออก” ที่มีความน่าจะเป็นสูง (High-Probability Setup)
  • ควบคุม “ความเสี่ยงต่อผลตอบแทน” (Risk/Reward)

TA ไม่ได้ทำนายอนาคต
แต่ “ประเมินความน่าจะเป็น” ของการเคลื่อนไหวครั้งต่อไป


🔹 3. โครงสร้างของ Pure Technical Analysis

Pure TA ประกอบด้วย 3 ชั้นสำคัญที่เชื่อมกันอย่างเป็นระบบ 👇

🔸 ชั้นที่ 1 — Price Structure (โครงสร้างราคา)

พื้นฐานของทุกระบบ TA

  • Higher High / Higher Low → ขาขึ้น
  • Lower High / Lower Low → ขาลง
  • Break of Structure (BOS) → เปลี่ยนแนวโน้ม
  • Range / Consolidation → ตลาดสะสมแรง
  • Liquidity / Stop Hunt → จุดที่รายใหญ่เก็บคำสั่ง
🔹 จุดโฟกัส: “ตลาดกำลังทำอะไรอยู่” ไม่ใช่ “เราคิดว่าควรไปทางไหน”

🔸 ชั้นที่ 2 — Price Action & Candlestick Behavior

อ่านแรงซื้อ–ขายจากพฤติกรรมของแท่งเทียน

  • Pin Bar, Engulfing, Inside Bar
  • Rejection & Confirmation Candle
  • Momentum Candle / Volume Candle
  • Breakout / Fakeout
  • ใช้ Timeframe หลายระดับเพื่อดูโครงสร้างที่ใหญ่และละเอียด
🔹 จุดโฟกัส: “แรงในแต่ละแท่งเทียนบอกเจตนาของตลาดอย่างไร”

🔸 ชั้นที่ 3 — Technical Tools (เครื่องมือเสริมการตัดสินใจ)

ใช้เพื่อยืนยันหรือกรองสัญญาณ ไม่ใช่เป็นตัวนำตลาด

  • Moving Average (MA): ช่วยดูแนวโน้มและ Dynamic S/R
  • RSI / MACD: วัด Momentum และ Divergence
  • Fibonacci Retracement / Extension: หาจุดกลับตัวและเป้าหมายราคา
  • Volume Profile / VWAP: หาจุดที่มีสภาพคล่องสูง (Value Area)
🔹 จุดโฟกัส: “เครื่องมือช่วยอ่าน ไม่ใช่สั่งให้เทรด”

🔹 4. หลักคิดสำคัญของสาย Technical เพียวๆ

หลักการคำอธิบาย
Trend is your friendเทรดตามแนวโน้มหลักของตลาด
Price discounts everythingราคาสะท้อนทุกข้อมูลแล้ว
History repeats itselfพฤติกรรมราคามีรูปแบบที่ซ้ำได้
Market is fractalโครงสร้างซ้ำในทุก Timeframe
Trade what you see, not what you thinkเทรดจากสิ่งที่กราฟบอก ไม่ใช่ความรู้สึก

🔹 5. เครื่องมือหลักของ Pure Technical Analyst

  1. แท่งเทียน (Candlestick Chart)
  2. แนวรับ–แนวต้าน (S/R Zones)
  3. เทรนด์ไลน์ และโครงสร้างตลาด (Market Structure)
  4. แพทเทิร์นราคา (Price Patterns) เช่น
    • Head & Shoulders
    • Double Top/Bottom
    • Flag / Triangle
  5. อินดิเคเตอร์เสริม (Secondary Tools) เช่น
    • MA, RSI, MACD, Volume Profile
  6. Timeframe Analysis (Multi-TF)
    • กรอบใหญ่บอกทิศ, กรอบเล็กหาจังหวะเข้า

🔹 6. การตัดสินใจของเทรดเดอร์สาย TA

ทุกการเทรดต้องตอบคำถาม 3 ข้อก่อนเข้าออเดอร์ 👇

  1. Trend: ตอนนี้ตลาดอยู่ในเทรนด์แบบไหน?
  2. Zone: อยู่ในโซนซื้อ (Demand) หรือขาย (Supply)?
  3. Signal: มีสัญญาณยืนยันจาก Price Action หรือไม่?

เมื่อครบ 3 ข้อ = มี Setup ที่มีความน่าจะเป็นสูง
เมื่อไม่ครบ = “รอ”


🔹 7. จุดแข็งและข้อจำกัดของ Pure TA

จุดแข็งข้อจำกัด
ใช้ได้กับทุกตลาดและทุก Timeframeต้องอาศัยประสบการณ์ในการตีความ
วัดผลได้ด้วยสถิติ (ไม่ต้องเดา)อาจเกิดสัญญาณหลอก (Fakeout)
ใช้ข้อมูลราคาจริง ไม่ขึ้นกับข่าวไม่รู้เหตุผลเชิงเศรษฐกิจที่อยู่เบื้องหลังราคา
เหมาะกับการเทรดระยะสั้น–กลางต้องมีวินัยสูงในการรอจังหวะที่ชัดเจน

🔹 8. Mindset ของ Technical Trader

  • วิเคราะห์เหมือนนักสถิติ → มองแต่ “ความน่าจะเป็น”
  • ตัดสินใจเหมือนหุ่นยนต์ → ไม่มีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง
  • วัดผลแบบระบบ → ทุกเทรดต้องมีเหตุผล, Stop Loss, และ RR ที่คำนวณได้

🧭 สรุปสั้นสุดแบบมืออาชีพ

🔹 Pure Technical Analysis คือการอ่านตลาดจาก “ราคาล้วนๆ”
🔹 เน้น “พฤติกรรมราคา + โครงสร้างตลาด”
🔹 ใช้เครื่องมือเพื่อ “ยืนยัน” ไม่ใช่ “ทำนาย”
🔹 มุ่งเน้นการ “หาความได้เปรียบทางสถิติ” (Statistical Edge)
🔹 จุดสูงสุดของสายนี้คือ “Price Action Trading” และ “Smart Money Concept (SMC)”